วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์: กลเม็ดเคล็ดลับ

คู่มือสอนเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์ แบบขั้นต่อขั้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไพ่แบล็คแจ็ค เป็นหนึ่งในเกมไพ่ในคาสิโน ออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ขณะเดียวกัน ในแง่ประวัติความเป็นมานั้น ก็ไม่ได้ปรากฎหลักฐานอะไรที่ชัดเจนออกมามากนัก เพียงแต่ส่วนใหญ่เชื่อว่า แบล็คแจ็ค มาจากประเทศฝรั่งเศส และ มาจากเกมเดิมพันที่ชื่อว่า vingt-et-un หรือแปลได้ว่า 20 และ 1 หรือ 21

ส่วนหนึ่งที่หลายคนเชื่อว่า แบล็คแจ็ค มาจากเกม vingt-et-un นั้น ก็เป็นเพราะว่ามีการแจกไพ่คล้ายกับกติกาของ เกมไพ่แบล็คแจ็ค ในปัจจุบัน และ วัตถุประสงค์หลักของเกมก็คือ การลุ้นผลรวมของแต้มในมือให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ต้องไม่เกิน 21 แต้มนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม นอกจากข้อมูลดังกล่าวแล้วนั้น ยังยังพบข้อมูลสนับสนุนของเกมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันอีก ไม่ว่าจะเป็นเกมไพ่ของชาวอิตาเลียน ที่จะวัดผลแพ้ชนะจากแต้มที่รวมกันได้ 7.5 แต้ม หากแต้มในมือเกินจากนี้ จะถือว่าแพ้ทันที รวมถึง ยังมีเกมไพ่จำนวน 31 แต้ม จากประเทศสเปน ที่มีแนวโน้มเช่นกันว่า อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารูปแบบของการเล่น เกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค ในปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน ยังมีข้อมูลส่วนหนึ่ง ที่ระบุว่า เกมไพ่ 21 แต้มนี้นั้น มีการเปิดตัวอย่างกว้างขวางในประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี ค.ศ.1800 ทว่าในช่วงแรกนั้นยังไม่ได้รับความนิยมในคาสิโนมากนัก

ถึงขั้นที่มีการเสนอการจ่ายผลตอบแทน 10 ต่อ 1 หากผู้เข้าร่วมเดิมพันสามารถที่จะชนะด้วยแต้มแบล็คแจ็คในไพ่ 2 ใบแรก เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจ จนกระทั่ง หลังจากนั้น ได้รับความนิยมมากขึ้น และ เป็นที่มาของการถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ ที่เรารู้จักอย่าง แบล็คแจ็ค ไพ่

เมื่อได้ชื่ออย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากนั้น การเล่นแบล็คแจ็ค ได้ถูกเข้าไปใช้กับการเล่นพนันในย่านเนวาก้า ช่วงปี ค.ศ. 1931 ซึ่งขณะนั้น ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในเกมพนันที่ถูกกฎหมาย มีให้เล่นกันหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือบ่อนคาสิโนใหญ่อย่าง ลาสเวกัส และ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดตัว เกมไพ่แบล็คแจ็ค อย่างเต็มรูปแบบ เรื่อยมาจนถึง การถูกบรรจุเข้าในคาสิโน ออนไลน์ อย่างเช่นทุกวันนี้

ปัจจุบัน เกมไพ่แบล็คแจ็ค สามารถเลือกเล่นได้ทั้งในรูปแบบของ บ่อนคาสิโน ออนไลน์ และ เว็บไซต์คาสิโน ออนไลน์ต่างๆ โดย ไพ่แบล็คแจ็ค เป็นเกมที่ให้ความสนุก ตื่นเต้น แถมยังต้องใช้ความคิด ไหวพริบ และ สมาธิ ซึ่งนอกจากหัวใจหลัก คือการทำอย่างไรให้ได้แต้มเท่ากับ 21 หรือ น้อยกว่า นั้น ในส่วนของ เกมไพ่แบล็คแจ็ค ยังมีรูปแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ ถึง 10 รูปแบบเลยทีเดียว

โดยในปัจจุบัน แบล็คแจ็ค ได้ถูกนำมาใส่เอาไว้ในเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ ส่งผลให้นักพนันทั่วโลกสามารถเข้ามาร่วมสนุกไปกับการเดิมพันได้ง่ายขึ้น เช่น Gclub ที่พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งรับได้ว่าสนุกไปแพ้เกมรูเล็ตที่สามารถติดตามได้จากลิงค์ https://thaikubet.com/how-to-win-roulette/ เลยทีเดียว

แน่นอนว่าใน Gclub ไม่เพียงแต่เกมดังอบ่างรูเล็ต หรือ แบล็คแจ็ค เท่าัน้น แต่ยังมีเกมกพนันอื่นๆอีกมากมายให้คุณได้เลือกเล่นอย่างเช่นเกมไพ่ระดับโลกอย่าง โปกเกอร์ ที่สนุกไม่แพ้ แบล็คแจ็ค อีกทั้ยังมีอัตราการจ่ายเงินรางวัลที่คุ้มค่า โดยสามารถเข้าเล่นได้อย่างง่ายดายผ่าน https://thaikubet.com/how-to-play-poker/ อีกด้วย

คุณสามารถเล่นแบล็คแจ็คบนเว็บไซต์เราได้ฟรี ไม่ต้องลงทะเบียน เพียงคลิกที่ลิงค์และเริ่มเล่นได้เลย https://thaikubet.com/play-blackjack-free/

วิธีการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็ค

แบล็คแจ็คเป็นเกมเดิมพันที่จัดว่าง่ายเล่นไม่ยาก นั่นทำให้มันได้รับความนิยมไม่น้อยในหมู่นักพนันทั่วโลก กระทั่งมีการเปิดแข่งขันเป็นทัวร์ราเมนต์เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะยังมีข้อสงสัยโดยเฉพาะมือใหม่ว่า แบล็คแจ็ค เล่นยังไง ดังนั้นเราจะขออธิบายในหัวข้อนี้ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

2.1.แลกชิปสำหรับเดิมพัน – ก่อนอื่นคุณจะต้องทำการซื้อชิปเพื่อเล่นเดิมพัน โดยคาสิโนส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้มีการเดิมพันด้วยเงินสด” เช่นเดียวกับในคาสิโนออนไลน์ที่จะเปลี่ยนเงินของคุณเป็นชิป ดังนั้นผู้เล่นจะต้องแลกเปลี่ยนเงินเป็นชิปเสียก่อน หลังจากนั้นให้วางเงินของคุณลงบนโต๊ะจากนั้นดีลเลอร์จะนับจำนวนชิปเท่ากับจำนวนเงินที่คุณซื้อ และผลักชิปเข้าหาคุณเพื่อใช้ในการเดิมพัน

2.2. ดีลเลอร์แจกไพ่ให้ผู้เล่น – เริ่มแรกคุณจะต้องวางเดิมพันในวงกลามสำหรับรอบแรก โดยหลังจากนั้นเจ้ามือจะแจกไพ่ตามเข็มนาฬิกาไพ่หนึ่ง โดยที่ไพ่ที่ผู้เล่นได้รับการแจก ใบหนึ่งจะหงายและไพ่หนึ่งใบคว่ำหน้าลง จากนั้นดีลเลอร์จะแจกไพ่อีกหนึ่งใบให้กับผู้เล่นแต่ละคน และอีกหนึ่งใบสำหรับตัวเจ้ามือโดยหงายไพ่ขึ้น

3. ตัดสินใจเลือกรูปแบบเดิมพัน – ในการเลือกรูปแบบเดิมพันผู้เล่นจะต้องจำไว้ว่าเป้าหมายสำหรับตัวเองคือจะต้องให้ไพ่มีแต้มเข้าใกล้ 21 แต้ม ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องไม่เกินนั้น ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจหลังจากได้ไพ่ในรอบแรก โดยรูปแบบการเลือกเดิมพันเกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค มีดังนี้

Hit หมายถึง การจั่วไพ่เพิ่มอีกใบ , Stand หมายถึงเลือกยืนยันไพ่ในมือที่มีอยู่ โดยแสดงความต้องการไม่ขอจั่วเพิ่มเติม , Double-Down หมายถึง คุณมีโอกาสที่จะเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่า โดยจะได้รับไพ่เพิ่มหนึ่งใบ ซึ่งก็คือการจั่วเพิ่มเติม แต่วิธีนี้อาจมีความเสี่ยงที่หากได้แต้มรวมเกิน 21 แต้ม ก็จะแพ้ทันที

และสุดท้ายคือ Split หมายความว่า หากผู้เล่นได้รับไพ่สองใบที่มีค่าเท่ากัน ผู้เล่นจะสามารถแยกไพ่ออกเป็นสองกอง โดยมีการเดิมพันแยกกันทั้งสองกอง นั่นเอง โดยก่อนจะเริ่มเลือกวิธีเดิมพันนั้นดีลเลอร์จะเริ่มจากผู้เล่นทางด้านซ้ายมือก่อนเป็นคนแรก ซึ่งการนับแต้มของไพ่มีดังนี้ หากเป็นไพ่ตั้งแต่ 2 – 10 จะมีแต้มตามหน้าของไพ่ เช่นหากได้ไพ่หน้า 9 ก็จะมีค่าเท่ากับ 9 แต้ม เป็นต้น

ส่วนไพ่ J Q K จะมีค่าเท่ากับ 10 แต้ม และ A หรือเอซ จะมีแต้มเป็น 1 หรือ 11 ทั้งนี้แล้วแต่ไพ่ในมือของผู้เล่นว่าจะมีแต้มรวมเท่าไหร่นั้นเอง และแน่นอนว่าหากไพ่ในมือมีแต้มรวมของไพ่เท่ากับ 21 จะเรียกว่า ไพ่แบล็คแจ็ค และชนะการเดิมพันในตานั้นๆทันที แต่ทั่งนี้ฝั่งดีลเลอร์หรือเจ้ามือจะมีกฎตายตัวคือ จะต้องเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ และหากผู้เล่นได้แต้มต่ำกว่า 16 ลงมาถือว่า แพ้เจ้ามือ

ขณะเดียวกันผู้เล่นสามารถเลือกการประกันไพ่ได้ โดยหากว่า ดีลเลอร์หงายไพ่ใบแรกออกมาเป็น A หรือเอซ ตามกติกาในการเล่นตานั้นๆก็จะมีระบบประกันทันที เพื่อที่จะเป็นสิ่งประกันความเสี่ยงหากเจ้ามือนั้นมีแต้ม 21 หรือแบล็คแจ็ค

นอกจากนี้ผู้เล่นสามารถเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าได้ด้วย โดยหากเจ้ามือเปิดไพ่สองใบแรกแล้วทางเจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นจะมีโอกาสเรียกไพ่เพิ่มได้ และสามารถเพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าได้ เมื่อคุณเลือกเดิมพันเป็นสองเท่า ดีลเลอร์นั้นจะแจกไพ่ให้เพียงใบเดียว แต่เมื่อคุณเลือกจั่วไพ่เพิ่มก็จะสามารถเพิ่มไพ่ได้ตามที่ต้องการ และหากเลือกหยุดจั่วก็จะไม่ได้ไพ่เพิ่ม

นอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้วนั้นยังสามารถแยกไพ่ได้ด้วย โดยหากว่า ไพ่ในมือของคุณมีค่าเท่ากับสองใบแรกที่ได้รับจากดีลเลอร์ก็จะสามารถเลือกแยกไพ่ออกเป็นสองมือได้ แต่ทั้งนี้เงินเดิมพันจะต้องเท่ากับเงินเดิมพันหลักที่วางไปในตอนแรกด้วย

ทั้งนี้การเลือกเดิมพันจะเกิดขึ้นเมื่อดีลเลอร์ทำการแจกไพ่จนครบทุกคน โดยผู้เล่นทุกคนสามารถจั่วไพ่ ได้ไม่จำกัด จั่วจนกว่าแต้มของคุณจะได้ 21 หรือได้แต้มที่พอใจ หรือแต้มเกิน 21 ก็จะหมดสิทธิ์จั่ว ขณะเดียวกันแต้มขอผู้เล่นคนอื่นจะไมาส่งผลใดๆกับตัวคุณ เนื่องจากแบล็คแจ็คเป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องแข่งขันกับเจ้ามือเท่านั้น

4.การจ่ายเงินแบล็คแจ็ค – ในการเล่นแบล็คแจ็คจะมีอัตราการจ่ายเงินที่แตกต่างกันไป โดยหากว่าคุณเป็นผู้ชนะแบบธรรมดาหมายถึงได้ไพ่ครบ 21 แต้ม โดยไม่มีการเพิ่มเงินเดิมพัน ก็จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:1 แต่หากเปิดไพ่มาแล้วได้แบล็คแจ็ค ทันทีก็จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 3:2

แต่กรณีเดิมพันประกันไพ่ หากไพ่ของเจ้ามือ ได้เอซ การทำประกันจะต้องวางเดิมพันอีกเท่าตัว หากไพ่ของเจ้ามือเป็นแบล็คแจ็ค จะได้รับเงินครึ่งหนึ่ง ของเงินเดิมพัน มีอัตราการจ่าย อยู่ที่ 2:1 แต่หากเจ้ามือไม่ได้ไพ่แบล็คแจ็คก็จะเสียเงินประกันทันที

หรือกรณีหากผู้เล่นได้ ไพ่แบล็กแจ็ค และใบแรกของเจ้ามือเป็นไพ่เอซ และเลือกที่จะเก็บไว้ก่อน ไม่ว่าไพ่ของเจ้ามือจะมีแต้มเป็นเท่าไร ผู้เล่นจะได้เงินเดิมพัน 1 เท่า ซึ่งอัตราการจ่ายอยู่ 1:1 นั่นเอง

เทคนิคเฉพาะสำหรับเกมแบล็คแจ็ค

แบล็คแจ็คเป็นเกมง่ายๆ ที่เล่นใหญ่ได้ถ้าคุณรู้ว่าจะวางแผนการเล่นยังไง โชคดีมาก ที่มีกลยุทธ์ให้คุณนำมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชนสูงสุดต่อประกันเดิมพันเกมส์ไพ่แบล็คแจ็คของคุณ เป็นกลยุทธ์ที่คุณรู้กันดีอยู่แล้วเพราะเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปในการเล่น แต่การใช้พวกมันเพื่อเพิ่มประกันเดิมพันเป็นข้อได้เปรียบ

เมื่อเจ้ามือจั่วได้แอช การประกันเดิมพันมีมูลค่าครึ่งหนึ่งต่อวงเงินเดิมพันของคุณที่วางไว้ การเดิมพันข้างมีผลต่อการวางเดิมพันเมื่อเจ้ามือจั่วไพ่ได้ 10 แต้มหลังจากที่จั่วได้แอชแล้ว แต้มคือแบล็คแจ็ค ก่อนที่เจ้ามือจะเปิดไพ่ทั้งหมด พวกเขาจะถามผู้เล่นก่อนว่าอยากวางประกันเดิมพันหรือจะเล่นเก็บก่อน ประกันเดิมพันมีมูลค่าครึ่งหนึ่งต่อเงินเดิมพันเดิมที่วางไว้และเล่น 2:1

3.1 เทคนิคการประกันแบล็คแจ็ค – การประกันเดิมพันมีประโยชน์มากเมื่อในมือคุณมีแต้มมากกว่า 17 หรือคุณมีเกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค

โอกาสที่เจ้ามือจะจับได้ 10 แต้มมีน้อยกว่าจั่วได้ไพ่ธรรมดา ถ้าเจ้ามือจั่วแต้มแบล็คแจ็คไม่ได้และจับได้แต้มที่ต่ำกว่าของคุณ คุณชนะ 3:2

การนับแต้มทำโดยการนับจากจำนวนแต้มบนไพ่ของผู้เล่นแต่ล่ะคน รวมไปถึงเจ้ามือด้วย มันคือการเก็บแต้มสูง เช่น (แอช คิง ควีน แจ็ค และ 10) แต้มต่ำ เช่น (2 3 4 5 6 ) และแต้มกลาง เช่น (7 8 9) ผู้เล่นจะใช้สถิติของแต่ละกองเพื่อหาความน่าจะเป็นของไพ่ที่ออกมา ฟังดูเหมือนว่าซับซ้อน แต่การรู้การใช้เทคนิคนี้จะช่วยให้คุณมีโอกาสเสียน้อยทั้งเงินวางเดิมพันและประกันเดิมพันของคุณด้วย

เทคนิคอีกอย่างในการนับแต้มประกันเดิมพันของคุณคือการทิ้งไพ่ในมือ การทิ้งไพ่เป็นประโยชน์สูงสุดที่คุณสามารถทำได้ ในขณะที่คุณวางประกันเดิมพันโดยการทิ้งไพ่แอชและแปด ถ้าคุณมีแอชหรือแปดสองตัวในมือ ทิ้งมันไปและจับไพ่ใบใหม่คุณมีโอกาสที่จะได้ไพ่แบล็คแจ็ค กับประกันเดิมพันและการทิ้งไพ่ โอกาสเอาชนะเจ้ามือเป็นไปได้มาก

สุดท้าย เทคนิคสุดท้ายที่มักจะถูกเมินและมองข้าม แต่การวางประกันเดิมพันเป็นสิ่งที่ดี เมื่อคุณมีแบล็คแจ็คให้วางประกันเดิมพันถ้าคุณได้แต้มแบล็คแจ็คไพ่เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเอาชนะเจ้ามือได้จริงๆเพราะถ้าเจ้ามือไม่มีแต้มแบล็คแจ็ค คุณจะยังคงชนะเจ้ามือได้และชนะ 3:2 ถ้าเจ้ามือเกิดจับได้แบล็คแจ็คขึ้นมา มันเกิดขึ้นได้ และคุณก็จะชนะทั้งเงินวางเดิมพัน และประกันเดิมพันอีกด้วย

3.2 พื้นฐานแบล็คแจ็คตามกลยุทธ์ 1-3-2-6 – สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ระบบการเดิมพันเกมส์ไพ่แบล็คแจ็คที่มีความเสี่ยง เช่น พาร์เลย์หรือมาร์ติงเกล นั้น มักเลือกใช้กลยุทธ์แบบแยก เช่น ระบบ 1-3-2-6 ซึ่งตอนแรกฟังดูค่อนข้างซับซ้อน เพราะมันเป็นเพียงตัวเลขจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์การเดิมพันนี้ไม่ยากเกินไป แม้แต่ผู้เริ่มเล่นแบล็คแจ็คเล่นยังไง

โดยเฉพาะเมื่อเดิมพันกับเงินจริงที่คาสิโน ระบบจะกำหนดวงเงินในการขาดทุนของผู้เล่นและวงเงินรางวัล ซึ่งระบบประเภทนี้ง่ายมากขึ้นสำหรับผู้เล่นที่จะเดินออกจากคาสิโนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเกมพื้นฐานระบบ 1-3-2-6แนวความคิดของระบบนี้คือ การเดิมพัน 1 หน่วย 3 หน่วย 2 หน่วยและ 6 หน่วยติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจำในระบบ 1-3-2-6 คือ คุณสามารถเพิ่มขนาดของหน่วยหลังจากเดิมพันชนะเท่านั้น

เช่นเดียวกัน หลังจากสิ้นสุดรอบการเล่น คุณจะกลับไปเดิมพันที่หนึ่งหน่วยเงินเดิมพันเริ่มต้นของผู้เล่นคือ หนึ่งหน่วย หากผู้เล่นชนะจะได้เพิ่มอีกหนึ่งหน่วย ผลรวมทั้งหมดของการเดิมพันครั้งที่สองคือ สามหน่วย

ถ้าหากผู้เล่นชนะในการเดิมพันครั้งที่สอง บนโต๊ะจะมีทั้งหมดหกหน่วย ผู้เล่นจะลบออกสี่หน่วยและบนโต๊ะจะยังคงเดิมพันเป็นสองหน่วยในการเดิมพันครั้งที่สามอีกครั้ง

สำหรับการเดิมพันที่สี่จะมีทั้งหมดหกหน่วย และสมมติว่าในรอบที่สี่ผู้เล่นชนะจะได้รวมทั้งหมดเป็น 12 หน่วย หากทุกขั้นตอนผู้เล่นชนะจะรวมได้ 14 หน่วย ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้โดยไม่ต้องเขียนลงไปคุณมีความเสี่ยงน้อยมาก เสี่ยงเพียง 2 หน่วยเพื่อใช้ระบบนี้ ,สร้างผลกำไรที่เป็นไปได้เมื่อชนะ 2 หรือ 4 ,สามารถรับรางวัลสูงถึง 12 เท่า เดิมพันใน 4 รอบ และ คุณสามารถนำไปใช้กับเกมส่วนใหญ่

ตัวอย่างระบบ 1-3-2-6 – กลยุทธ์การเดิมพันแบล็คแจ็ค สมมติว่าผู้เล่นกำลังเดิมพันด้วยเงิน 100 บาท สมมติว่า ผู้เล่นชนะการเดิมพันสี่ครั้งติดต่อกัน การเดิมพันครั้งแรกของผู้เล่นคือ 100 บาท ครั้งที่สองจะเป็น 300 บาท ครั้งที่สามจะเท่ากับ 200 บาท และครั้งที่ห้าและครั้งสุดท้ายจะเป็น 600 บาท

การเล่นตามลำดับ ผู้เล่นจะกลับไปเดิมพัน 100 บาท เมื่อพิจารณาดูจากมุมมองต่างๆ สมมติว่า หากผู้เล่นชนะการเดิมพัน 100 บาท ชนะการเดิมพัน 300 บาท แต่แพ้การเดิมพัน 200 บาท กรณีนี้ ผู้เล่นจะต้องเลื่อนกลับไปเล่นที่การเดิมพัน 100 บาท และให้เริ่มใหม่

แน่นอนว่าการเล่นแบล็คแจ็คคุณสามารถร่วมสนุกกับ ที่พร้อมให้บริการผ่านรูปแบบออนไลน์ ซึ่งเต็มไปด้วยความสะดวก และข้อดีมากมาย อีกทั้งยังมีเวลาให้คุณได้ทดลองใช้เทคนิคที่เราได้กล่าวไปเพื่อให้คล่องขึ้น และลุ้นโอกาสทำเงินจากเกมชนิดนี้